ยาปลูกผม ผู้ชาย Rogaine Foam minoxidil 5 %

ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam เป็นยาปลูกผมชนิดโฟมตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศอเมริกา ด้วยตัวยาสำคัญ Minoxidil 5 %  (ไมนอกซิดิล 5 %) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นโฟม ใช้งานง่าย และเหนืออื่นใด คือ ใช้แล้วได้ผลจริง ช่วยในการฟื้นสภาพเส้นผมของคุณให้กลับคืนมาอีกครั้ง

คุณสมบัติหลักของยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam

• เป็นผลิตภัณฑ์ยาปลูกผมสำหรับผู้ชายยอดนิยมจากอเมริกา เป็นโฟมเพียงตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจาก FDA (Food and Drug Administration หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของอเมริกา) จึงรับรองได้ว่าใช้แล้วปลอดภัยและได้ผลจริง
• เป็นผลิตภัณฑ์ปลูกผม อันดับ 1 ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำให้ใช้
• Rogaine  (โรเกน) กับ Regaine (รีเกน) เป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกัน เพียงแต่มีชื่อทางการค้าที่แตกต่างกันตามภูมิภาคที่วางจำหน่าย โดยในอเมริกาจะใช้ชื่อ Rogaine สำหรับทางยุโรปและที่อื่นๆจะใช้ชื่อว่า Regaine
• ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงบริเวณกลางศีรษะอันเกิดจากพันธุกรรม (Male Pattern Baldness) อันเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมร่วงที่เกิดกับผู้ชายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถปลูกผมในผู้ชายได้จริง
• เนื้อโฟมประกอบด้วยตัวยาสำคัญ Minoxidil 5 %  (ไมนอกซิดิล 5 %)
• ใช้โดยตรงกับหนังศีรษะ วันละสองครั้ง ทุกวัน
• ใช้งานง่าย แห้งเร็ว และ ไม่มีกลิ่น
• ไม่รบกวนการจัดแต่งทรงผม
• ในกล่องบรรจุ 3 ขวด สำหรับการใช้งาน 3 เดือน  (1 ขวดใช้ได้นาน 1 เดือน)

ตัวยาผ่านการทดสอบการใช้งานในคลินิค พิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยปลูกผมได้อย่างมีประสิทธิภาพในผู้ชายถึง 85 % หลังจากผ่านการใช้งานไปแล้วนาน 4 เดือน เมื่อใช้วันละ 2 ครั้ง และเพราะตัวผลิตภัณฑ์โฟมจึงใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ และรวดเร็ว โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมประจำวัน

วิธีใช้ ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam

ยาปลูกผม Rogaine Foam (โรเกน โฟม)  / Regaine Foam  (รีเกน โฟม) เป็นผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่มี Minoxidil 5 %  (ไมนอกซิดิล 5 %) เป็นตัวยาสำคัญ ใช้งานง่าย เพียงแค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นก่อนนอน เท่านั้น

ขั้นตอนที่ 1  แหวกผมให้เห็นบริเวณหนังศีรษะบริเวณที่มีอาการผมร่วง

ขั้นตอนที่ 2  ถือกระป๋องให้คว่ำลง และกดที่หัวฉีดให้เนื้อโฟมออกมาอยู่บนนิ้วมือ กะปริมาณของเนื้อโฟมที่ใช้ประมาณครึ่งฝากระบ๋อง

ขั้นตอนที่ 3  ใช้นิ้วมือ ป้ายเนื้อโฟมลงบนหนังศีรษะส่วนที่มีอาการ และนวดเบาๆให้ทั่วบริเวณที่มีอาการผมร่วง เมื่อเสร็จแล้วล้างมือให้สะอาด เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการใช้งาน

จะเห็นว่า วิธีการใช้ ยาปลูกผม Rogaine Foam  Regaine Foam ง่าย และเร็ว และไม่มีผลกระทบต่อการใช้งานผลิตภัณฑ์จัดทรงผมแบบอื่นๆ มีสาร Minoxidil 5 %  (ไมนอกซิดิล 5 %) เป็นส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ปลูกผมที่เป็นโฟมตัวแรกและตัวเดียวที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของอเมริกา ( FDA -Food and Drug Administration )

ข้อแนะนำในการเก็บ  ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อนทั่วโลกพบกันคือ สภาพอากาศที่ร้อนจะทำให้โฟมที่ฉีดออกมาจากขวดรักษาสภาพโฟมไว้ไม่ได้นาน ถ้าใช้ฉีดลงบนมือเนื้อโฟมจะกลายเป็นน้ำในเวลาไม่กี่วินาที ซึ่งผู้ใช้ทั่วโลกก็ได้ทดลองวิธีการหลายๆอย่าง มีตั้งแต่การ ทำมือให้เย็นก่อนใช้แล้วค่อยฉีดโฟมลงบนมือ , การเก็บโฟมในตู้เย็น , การฉีดโฟมลงบนผมโดยตรงโดยไม่ผ่านมือ  แต่วิธีการที่น่าจะได้ผลดีที่สุด คือ การแช่โฟมไว้ในตู้เย็นก่อนใช้งานประมาณ 3-4 นาที และฉีดลงบนผมโดยตรง ข้อดีคือ จะทำให้เนื้อโฟมรักษารูปได้ และเวลาฉีดลงบนผมจะรู้สึกเย็น ทำให้รู้ว่านวดถูกบริเวณหรือไม่ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากข้อแนะนำของผู้ผลิต คือควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 20-25 C จึงไม่แนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็นตลอดเวลา ถ้ามีที่เก็บที่ค่อยข้างเย็นหน่อยก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ให้เก็บไว้ที่อุณภูมิห้องที่มีลมผ่านได้ธรรมดาก็พอ และไม่ควรให้กระป๋องโดนแดด

ตัวยาสำคัญ

• Minoxidil 5 %  (ไมนอกซิดิล 5 %)

จุดประสงค์

• ใช้ในการปลูกผมใหม่สำหรับผู้ชาย ที่บริวณส่วนกระหม่อมกลางศีรษะ ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่า Vertex ดังแสดงในรูป หากอาการผมร่วง ผมบาง เกิดที่บริเวณอื่นตัวยานี้อาจใช้ไม่ได้ผล

ส่วนประกอบอื่นๆ

• butane, butylated hydroxytoluene, cetyl alcohol, citric acid, fragrance, glycerin, isobutane, lactic acid, polysorbate 60, propane, purified water, SD alcohol 40-B, stearyl alcohol

คำเตือน

• สำหรับการใช้ทาภายนอกและสำหรับผู้ชายเท่านั้น
• เป็นวัตถุไวไฟ: หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ความร้อน เปลวไฟ หรือ ควัน เมื่อใช้งาน

ไม่ควรใช้ถ้า

• เป็นผู้หญิง
• ปริมาณของผมร่วง แตกต่างจากที่รูปที่แสดงด้านบน หรือ ตำแหน่งที่มีอาการผมร่วงเกิดบริเวณด้านหน้าศีรษะ ทั้งนี้ตัวยาMinoxidil 5 %  (ไมนอกซิดิล 5 %)ไม่เหมาะจะใช้งานกับอาการผมร่วงที่เกิดบริเวณด้านหน้าศีรษะ หรือ อาการแนวผมถอยร่น
• ไม่มีประวัติการผมร่วงในครอบครัว
• อาการผมร่วงเกิดขึ้นแบบฉับพลันและ/หรือ เป็นหย่อมๆ
• ไม่ทราบสาเหตุของอาการผมร่วง
• อายุต่ำกว่า 18 ปี  ห้ามใช้กับเด็กหรือทารก
• หนังศีรษะเป็นสีแดง ติดเชื้อ มีอาการระคายเคือง หรือปวดบวม
• มีการใช้ตัวยาอื่นบนหนังศีรษะอยู่แล้ว

หากมีอาการโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

ข้อควรรู้เมื่อใช้

• ห้ามใช้กับส่วนอื่นๆของร่างกาย
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงตา ในกรณีที่มีมีการสัมผัส ให้ล้างตาด้วยน้ำเย็นสะอาดปริมาณมาก
• ในผุ้ใช้บางรายอาจมีอาการสีผมหรือพื้นผิวเส้นผมเปลี่ยนสภาพ
• การปลูกผมใช้จำเป็นต้องใช้เวลา ผู้ใช้อาจมองเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 2 เดือน เมื่อใช้วันละ 2 ครั้ง ในผู้ใช้หลายรายอาจมองเห็นผลลัพธ์ได้หลังจากผ่านการใช้งานมาอย่างน้อย 4 เดือน
• ปริมาณของเส้นผมที่งอกขึ้นมาใหม่จะแตกต่างกันตามแต่ละบุคคล ผลิตภัณ์ตัวนี้ไม่ได้ใช้แล้วเกิดผลกับผู้ชายทุกคน

ควรหยุดการใช้แล้วปรึกษาแพทย์เมื่อ

• มีอาการปวด แน่นหน้าออก หัวใจเต้นเร็ว หน้ามืด เวียนศีรษะ
• น้ำหนักมีการเพิ่มขึ้นอย่างทันทีทันใด โดยไม่สามารถอธิบายได้
• มือหรือเท้ามีอาการบวม
• มีผื่นแดง อักเสบ ที่บริเวณหนังศีรษะ
• มีขนหรือผมที่ไม่ต้องการบนใบหน้า
• ใช้แล้วไม่เห็นผลในระยะเวลา 4 เดือน

อาจเป็นอันตรายหากมีการใช้เมื่อตั้งครรภ์หรือมีการให้น้ำนม ควรเก็บให้อยู่ห่างจากมือเด็ก หากกลืนลงคอ ให้ติดต่อแพทย์ในทันที

คำแนะนำในการใช้

• ถือประป๋องให้หัวคว่ำลง ใช้ปริมาณโฟมครึ่งฝา วันละ 2 ครั้งที่บริเวณที่มีอาการผมร่วง
• นวดบริเวณหนังศีรษะด้วยนิ้ว แล้วล้างมือให้สะอาด
• ก่อนใช้ ควรอ่านคำแนะนำวิธีการใช้ที่ติดอยู่ที่กระป๋องให้ครบถ้วน
• การใช้บ่อยมากเกินไปไม่ทำให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
• เพื่อให้เส้นผมของคุณเพิ่มขึ้นและเจริญเติบโตต่อไป จำเป็นต้องใช้ อย่างต่อเนื่อง หากหยุดการใช้แล้วอาการผมร่วงก็จะกลับมาเกิดขึ้นอีก

ข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้

• ผลลัพธ์จากการใช้งาน ได้รับการทดสอบในคลินิก กับผู้ชาย (ส่วนใหญ่ผิวขาว) ช่วงอายุระหว่าง 18-49 ปี ซึ่งใช้งานติดต่อกันนานเป็นเวลา 4 เดือน
• ก่อนใช้งาน ควรอ่านวิธีการใช้ที่ข้างกระป๋องให้ละเอียด
• ควรเก็บกล่องไว้ เนื่องจากมีข้อมูลที่สำคัญอยู่
• ควรเก็บในห้องที่มีอุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส
• กระป๋องมีความดัน  อย่าเจาะ หรือเผาตัวกระป๋อง ห้ามโดนความร้อน หรือเก็บที่อุณหภูมิสูงกว่า 49 องศาเซลเซียส

ผลลัพธ์หลังใช้ ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam

เพราะเรารู้ดีว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงนับล้านคนมีปัญหาผมร่วง ผมบาง อันเป็นผลมาจากพันธุกรรมและฮอร์โมนเพศ คุณไม่ใช่คนเดียวที่มีปัญหานี้ คุณแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ?

เช่น เดียวการลดน้ำหนัก ที่คุณไม่สามารถจะผอมลงได้ในชั่วข้ามคืน การใช้ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam  แม้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่วันแรกที่ใช้งาน แต่จริงๆแล้วตัวยากำลังช่วยคุณสร้างสุขภาพของเส้นผมที่ดียิ่งขึ้น ผมหนายิ่งขึ้น

การใช้เป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและกลางคืนก่อนนอน โดยใช้โดยตรงกับหนังศีรษะ เสมือนหนึ่งว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคุณ เช่นเดียวกับการแปรงฟัน การทำเช่นนี้จะช่วยให้เส้นผมของคุณกลับมางอกงามได้ใหม่อีกครั้ง

อย่างแรกที่ต้องรู้ก่อนคือคือ อาการผมร่วงของ คุณเป็นอาการที่ไม่ได้เกิดชั่วข้ามคืน และ คุณไม่สามารถจะปลูกเส้นผมขึ้นมาใหม่ได้ในเวลาวันเดียว เช่นเดียวกับการใช้ตัวยานี้   ถึงแม้ว่าคุณจะเริ่มใช้งานทันที ก็ยังต้องใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 4 เดือน ถึงจะเห็นผมลัพธ์ที่ชัดเจน

ข้อสังเกตุในการเริ่มใช้งานเป็นประจำ

• หลังจากที่เริ่มใช้งานมาได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ อาจจะเริ่มเห็นอาการผมร่วง ที่เรียกว่าผลัดเส้นผมเป็นการชั่วคราว
• นั่นเป็นสัญญาณที่ดีและหมายความว่ากระบวนการเกิดใหม่ของเส้นผมกำลังเริ่มต้นขึ้น
• เส้นผมเก่าที่หลุดล่วงออกมาจะเริ่มมีเส้นผมใหม่ขึ้นมาแทน
• เส้นผมอ่อนที่งอกขึ้นมาใหม่จะนุ่มและไม่มีสี
• เมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง เส้นผมใหม่จะหนาและมีสีเดียวกับผมเส้นอื่นๆของคุณ
• ถ้าคุณไม่เห็นผลหลังจากใช้งานวันละ 2 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ให้ติดต่อแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำ

ภาพเปรียบเทียบ ก่อนใช้ – หลังใช้ ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam

เส้นทางการใช้งาน ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam

ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ Minoxidil 5 % ( ไมนอกซิดิล 5 % )  ซึ่งมีผลในการช่วยสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม ทั้งนี้ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าถ้าคุณใช้แล้วจะได้ผลแน่นอน วิธีการเดียวที่จะรู้ก็คือการทดลองด้วยตัวเอง โดยการใช้งานวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ติดต่อกันนาน 4 เดือน หากใช้นานกว่า 4 เดือนแล้วยังไม่เห็นผล ก็เป็นไปได้ว่าในกรณีของคุณตัวยานี้ใช้ไม่ได้ผล

แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าทำไมตัวยา Minoxidil (ไมนอกซิดิล) ถึงส่งผลให้เส้นผมงอกขึ้นมาได้ สันนิษฐานกันว่ามันทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณที่ผมร่วงเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้เซลล์รากผมเจริญเติบโตได้ดีขึ้น

และเช่นเดียวกับตัวยาอื่นๆ Minoxidil (ไมนอกซิดิล)ก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน ผลข้างเคียงของ ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam ที่เกิดกับผุ้ใช้ส่วนใหญ่มักจะมีไม่มาก ซึ่งข้อนี้สามารถรับรองได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าในอดีตยานี้เคยจำหน่ายผ่านใบสั่งยาของแพทย์ แต่หลังจากปี 1996 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของอเมริกา หรือที่เรียกว่า FDA ได้ยอมให้สามารถวางจำหน่ายได้ทั่วไป สำหรับผู้ใช้โดยส่วนใหญ่แล้ว ผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้จะมีแค่ อาการคัน และระคายเคืองหนังศีรษะ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงบางอย่างก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้จากการใช้งาน มีดังต่อไปนี้

1. ผลกระทบที่เกิดกับหนังศีรษะ

• มีอาการระคายเคือง
• เป็นรอยแดง
• แห้ง
• ลอก

การใช้แชมพูขจัดรังแคทืี่ดี มีส่วนช่วยลดอาการผลข้างเคียงลงได้ สำหรับผู้ใช้ ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam Minoxidil 5 % ( ไมนอกซิดิล 5 % ) หากต้องการลดผลข้างเคียงลงก็สามารถใช้ ยาปลูกผม Rogaine Regaine Minoxidil 2 % ( ไมนอกซิดิล 2 % ) สลับกันได้ ตัวอย่างเช่น ใช้ Minoxidil 2 %  ในตอนเช้า และใช้ Minoxidil 5 % ในตอนกลางคืนเป็นต้น

2. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต อาจะส่งผลให้เกิด

• อัตราการเต้นหัวใจไวขึ้น
• ปวดแน่นหน้าอก
• ปวดหัว
• หน้ามืด เวียนศีรษะ
• หายใจลำบาก

ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam  มีส่วนผสมตัวยาสำคัญคือ Minoxidil (ไมนอกซิดิล) ซึ่งมีการใช้เพื่อลดความดันโลหิตให้กับผุ้ป่วยที่มีอาการความดันโลหิตสูง โดยที่ตัวยาจะช่วยคลายหลอดเลือดช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดียิ่งขึ้น ทำให้ผู้ใช้บางท่านอาจมีอาการข้างเคียงข้างต้น ซึ่งหากมีอาการข้างต้นให้หยุดใช้ และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

3. เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้น  อาจจะฟังดูแปลกซักหน่อย ที่ผลข้างเคียงจาก การใช้ยาปลูกผม กลับทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้นในช่วงแรกๆที่ใช้งาน แต่อาการนี้เป็นแนวโน้มที่ดีเนื่องจากการที่จะปลูกเส้นผมใหม่ที่แข็งแรงกว่า เดิมนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เส้นผมเก่าที่อ่อนแอต้องหลุดออกมาก่อน การผลัดเส้นผมนี้ไม่ควรจะเกิดนาน หากใช้งานนานกว่า 1 เดือนแล้วเส้นผมยังหลุดร่วงมากอยู่ให้ขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

4. ทำให้ผมมัน  สาร  Propylene Glycol ที่ใช้ในยาปลูกผมทั่วๆไป จะทำให้ผมมัน และเหนียวทำให้ยากต่อการจัดทรง  ซึ่งการที่เส้นผมที่บางอยู่แล้ว มีน้ำหนักมากขึ้น จะทำให้ผมดูบางยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Foam จะไม่มีปัญหานี้

ผู้ใช้จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้ว่าผลข้างเคียงจากตัวยา Minoxidil (ไมนอกซิดิล) ใน ยาปลูกผม Rogaine Foam Regaine Foam  มีอะไรบ้าง ทั้งนี้การใช้งานอย่างต่อเนื่องทุกวัน วันละ 2 ครั้งตลอดระยะเวลา 4  เดือน จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ผลสำหรับคุณหรือไม่

กับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ผลกระทบเดียวที่อาจจะเกิดจากการใช้งานก็คืออาการระคาย เคืองหนังศีรษะ ในกรณีอื่น หากมีผลกระทบจากการเปลี่ยนความดันโลหิต ก็แนะนำให้ไปใช้ผลิตภัณฑ์อื่น หากมีข้อสงสัยแนะนำให้สอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ยาปลูกผม Rogaine Regaine Men Rogaine Foam regaine Regaine Foam rogaine Rogaine Foam น้ำยาปลูกผม ยาปลูกผม รีเกน โรเกน